Company

บริษัท สหชัยไทยพืชผล จำกัด

Export Country

ไทย ญี่ปุ่น

Who They Are

ผู้ส่งออกสินค้าการเกษตร ประเภทขิงดอง

Next Goal

เป้าหมายต่อไปคือการเพิ่มการส่งออกไปประเทศอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และยุโรป

Vision

มุ่งเน้นความพิถีพิถันและให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการผลิตขิง ทั้งขิงดอง และขิงสไลซ์ เพื่อให้ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของลูกค้า

T Mark Benefits

ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือว่ากระบวนการผลิตมีคุณภาพ มีการจ้างงานอย่างเป็นธรรม และดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น

What they accomplished

ได้การรับรองมาตฐาน GMP และ HACCP CODEX เพื่อยืนยันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ขิงดองและขิงสไลซ์ และได้การรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา สำหรับการผลิตขิงดองและขิงสไลซ์ให้ได้มาตรฐานสำหรับห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีก

T Mark Member

พ.ศ. 2561 - 2564

Managing Director

นายอิทธิเชฏฐ์ เตชะไกรศรี

Thaitrade

-

Length of Establishment

เริ่มก่อตั้งปี 2524 จนถึงปัจจุบันรวม 38 ปี

Company

บริษัท สหชัยไทยพืชผล จำกัด

Address

เลขที่ 68 หมู่ 4 ถนนพหลโยธิน ตำบลแม่ปืม อำเภอเมือง พะเยา 56000

Tel

+66(0) 54-428123-5

Fax

+66 (0) 54-428529



สหชัยไทยพืชผล : อวดขิงไทย ให้โลกรู้

สาวกคนชอบกินอาหารญี่ปุ่นหรือเกาหลีคงคุ้นหน้าคุ้นตากับขิงดอง ที่มักเป็นเครื่องเคียงอยู่เกือบทุกเมนู หลายคนอาจคิดว่าขิงเหล่านี้ต้องมาจากประเทศเจ้าของเมนูเป็นแน่ แต่แท้จริงแล้วขิงที่เห็นอยู่อาจเป็นขิงจากเมืองไทยก็เป็นได้

 

Tmark ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือว่ากระบวนการผลิตมีคุณภาพ มีการจ้างงานอย่างเป็นธรรม และดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น

เริ่มรุ่นพ่อ ต่อยอดรุ่นลูก

สหชัยไทยพืชผล เป็นธุรกิจส่งออกขิงดองที่ส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลก ด้วยฝีมือการบริหารของ คุณอิทธิเชฏฐ์ เตชะไกรศรี โดยต่อยอดจากคุณพ่อ คุณศักดิชัย เตชะไกรศรี ที่ก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 โดย ก่อนหน้านั้นขิงของสหชัยไทยพืชผลส่งออกไปที่ญี่ปุ่น และอเมริกา แต่ในปัจจุบันได้มีพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ขิง สไลด์ พร้อมทําโรงสไลด์ใหม่และเพิ่มไลน์ผลิต เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และได้ขยายตลาดเพิ่มเติมไปที่ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกระจายสินค้าในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น

 

คุณภาพดีมากอย่างสม่ำเสมอ

สหชัยไทยพืชผลมีการควบคุมคุณภาพขิงตั้งแต่วัตถุดิบ เช่น ใช้ขิงอ่อนที่อยู่ภาคเหนือ เหตุที่ต้องใช้ขิงในภาคเหนือ เพราะมีคุณภาพดี อีกทั้งยังเลือกตั้งโรงงานที่พะเยา เพื่อประหยัดเวลาในการขนส่งและต้นทุนการผลิต รวมทั้งยังสามารถรักษาคุณภาพของขิงได้เป็นอย่างดี ในส่วนกระบวนการผลิตก็มีการควบคุมตามมาตรฐานสากล ทั้ง GAP, GMP, HACCP CODEX และมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ามีสินค้าคุณภาพ มีกระบวนการผลิตที่ดีและปลอดภัย

 

สม่ำเสมอในทุกด้าน

ต้องบอกว่าการเติบโตของสหชัยไทยพืชผล มีลักษณะการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งการเติบโตในรูปแบบนี้ จะต้องอาศัยความสม่ำเสมออย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น

 

พัฒนาระบบการผลิตและเทคโนโลยีสม่ำเสมอ

ด้วยความที่ต้องพัฒนาสินค้าและควบคุมคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สหชัยไทยพืชผลต้องหมั่นพัฒนาระบบการผลิตด้วยการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ โดยเครื่องจักรส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากญี่ปุ่น ทำให้กระบวนการและระบบการผลิตค่อนข้างคล้ายกับที่ญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีการนำพลังงานทดแทนอย่างโซล่าเซลล์มาใช้บริษัท เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย

 

ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

อาหารการกิน เรื่องความปลอดภัย คือเรื่องสำคัญของผู้บริโภค สหชัยไทยพืชผลใส่ใจความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยได้รับการรับรองเรื่องระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยและไว้ใจในการเลือกซื้อสินค้าของสหชัยไทยพืชผล

 

พัฒนาองค์กรและบุคลากรในบริษัทอย่างสม่ำเสมอ

สหชัยไทยพืชผลใช้หลักพระพุทธศาสนาในการดำเนินธุรกิจ โดยต้องมีธรรมาภิบาลในการดูแลลูกค้า ครอบครัว พนักงาน สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยทางสังคม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ โดยจะมีการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาบุคลากรและองค์กรโดยเฉพาะ

 

สร้างอาชีพให้เกษตรกรไทยอย่างสม่ำเสมอ

การช่วยเหลือเกษตรกรไทยคืออีกเป้าหมายที่สหชัยไทยพืชผลต้องการจะให้สำเร็จ ในปัจจุบันได้มีการสนับสนุนและส่งเสริมการปลูกขิงแก่เกษตรกรไทย โดยจัดส่งนักวิชาการเข้าไปให้ความรู้ พร้อมแนะนำเทคนิคสมัยใหม่เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างงานให้เกษตรกรไทย และที่สำคัญจะรับซื้อขิงจากชาวไร่โดยตรงในแถบจังหวัดภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และเลยประมาณปีละ 5,000 ตัน

แบ่งปันสังคมอย่างสม่ำเสมอ

 

รายได้ส่วนหนึ่งที่ได้มา จะแบ่งส่วนไปตอบแทนสังคมอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำบุญถวายผ้ากฐินสามัคคี การสร้างอาคารเรียน เป็นต้น เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมไทย

อนาคตที่ต้องไปให้ถึง

เมื่อมีการวางเป้าหมาย ภารกิจสำคัญคือต้องไปให้ถึง บริษัทวางเป้าหมายไว้ว่าจะต้องเพิ่มการส่งออกไปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และยุโรปให้มากขึ้น โดยใช้ผู้ช่วยคนสำคัญอย่างตรา T Mark มาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ว่ามีการกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ มีจ้างงานอย่างเป็นธรรม และดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดี ซึ่งหลังจากได้รับตราสัญลักษณ์ T Mark ไปนั้น พบว่า มีลูกค้าใหม่ 2-3 เจ้าที่เชื่อมั่นสินค้าของบริษัททันทีจากตราสัญลักษณ์นี้

เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดการทำธุรกิจต่อจากรุ่นพ่อในแบบช้าแต่ชัวร์ ด้วยการรักษาแบบเดิมให้คงอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาองค์กรในทุกด้าน ทั้งด้านภาพลักษณ์ คุณภาพ ความหลากหลาย บุคลากร เพื่อให้ก้าวไปยืนในตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมินั่นเอง